Steel Fibers คืออะไร? รู้จักวัสดุเสริมแรงคอนกรีตที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง

ปัจจุบันในวงการก่อสร้าง “คอนกรีต” ถือเป็นวัสดุที่ถูกใช้งานมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และ ขึ้นรูปได้ง่าย แต่ปัญหาสำคัญของคอนกรีตก็ คือ “ความเปราะ” แตกหักง่ายเมื่อเจอแรงดึงหรือ แรงกระแทกสูง ดังนั้นวิศวกรจึงมีการพัฒนาเทคนิคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง เช่น การใช้เหล็กเสริม (Rebar) ตาข่ายลวดเหล็ก (Wire Mesh) หรือ การผสมวัสดุเสริมแรงอย่าง Steel Fibers (เส้นใยเหล็ก) ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดย Steel Fibers คือ เส้นใยโลหะขนาดเล็กที่ถูกออกแบบมาให้ผสมลงไปในเนื้อคอนกรีตโดยตรง เพื่อช่วยเพิ่มคุณสมบัติด้านความทนทาน ลดการแตกร้าว และ เพิ่มความเหนียว (Toughness) ให้กับคอนกรีต จึงกลายเป็นนวัตกรรมวัสดุที่ถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้างหลากหลายประเภท ดังนั้นบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จัก Steel Fibers อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย ประเภท วิธีการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม

ทำความรู้จักกับ Steel Fibers คืออะไร?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Steel Fibers คือเส้นใยโลหะที่ทำจาก เหล็กกล้าคาร์บอน (Carbon Steel) หรือ บางครั้งเป็น สแตนเลส (Stainless Steel) โดยมีลักษณะเป็นเส้นเล็ก ๆ ยาวประมาณ 25–60 มิลลิเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 0.3–1.0 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กับการออกแบบ โดยเส้นใยเหล่านี้ถูกนำไปผสมลงในคอนกรีตในสัดส่วนที่เหมาะสม (ปกติอยู่ระหว่าง 0.25%–2% ของปริมาตรคอนกรีต) ซึ่งมีหน้าที่หลักของ Steel Fibers คือ ช่วย กระจายแรง ที่เกิดขึ้นในคอนกรีต ทำให้รอยร้าวที่อาจเกิดขึ้นไม่ขยายตัวกว้างออกไป และ เพิ่มความเหนียวของคอนกรีต ซึ่งแตกต่างจากการเสริมเหล็กเส้นที่ทำหน้าที่รับแรงดึงในทิศทางหลักเพียงบางด้าน

แนะนำคุณสมบัติของ Steel Fibers เพื่อให้ใช้งานอย่างเหมาะสม

การเสริมแรงด้วยการใช้ Steel Fibers นั้นจะช่วยให้คอนกรีตมีคุณสมบัติเด่นอย่างมาก ประกอบไปด้วยคุณสมบัติ ดังนี้

1. เพิ่มความเหนียว (Toughness) – โดยทั่วไปแล้วคอนกรีตปกติมักมีความเปราะสูง แต่เมื่อมีเส้นใยเหล็ก Steel Fibers จะทำให้คอนกรีตสามารถรับแรงกระแทก และ แรงดัดได้ดียิ่งขึ้น
2. ลดการแตกร้าว (Crack Control) – Steel Fibers นั้นจะช่วยยับยั้งการก่อตัว และ การขยายตัวของรอยร้าว โดยเฉพาะรอยร้าวเล็ก ๆ จากการหดตัว (Shrinkage Cracks)
3. เพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทก (Impact Resistance) – โครงสร้างของคอนกรีตที่ต้องเจอแรงกระแทกสูง เช่น พื้นโรงงาน ลานจอดรถ หรือ รันเวย์สนามบิน มักเลือกใช้คอนกรีตผสมเส้นใยเหล็ก Steel Fibers
4. เพิ่มความต้านทานต่อการล้า (Fatigue Resistance) – คอนกรีตเสริมใยเหล็กจากการใช้ Steel Fibers สามารถทนต่อแรงที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ได้ดีกว่าคอนกรีตธรรมดา
5. ช่วยลดการใช้เหล็กเสริมบางส่วน – แม้จะไม่สามารถแทนที่เหล็กเสริมได้ทั้งหมด แต่ในบางโครงการ Steel Fibers ก็สามารถลดปริมาณการใช้ Rebar ได้อย่างมาก

แนะนำประเภทของ Steel Fibers ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

Steel Fibers นั้นมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต และ การใช้งาน โดยทั่วไปจะสามารถแบ่งได้ดังนี้

1. Straight Fibers (เส้นตรง)
   Steel Fibers ประเภทนี้นั้นจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงธรรมดา ซึ่งจะมีราคาถูกที่สุด แต่ก็มีคุณสมบัติที่สามารถยึดเกาะกับคอนกรีตได้น้อยกว่าประเภทอื่นๆ
2. Hooked-End Fibers (ปลายงอ)
   Steel Fibers แบบนี้นั้นจะมีการงอที่ปลายเส้น ทำให้ยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดีขึ้น ซึ่งนิยมใช้มากที่สุดในงานอุตสาหกรรม
3. Crimped Fibers (แบบหยัก)
   Steel Fibers แบบหยักนั้นจะมีลักษณะเป็นคลื่น หรือ หยัก ซึ่งสามารถช่วยให้เส้นใยยึดกับเนื้อคอนกรีตได้แน่นหนามากยิ่งขึ้น
4. Twisted Fibers (บิดเกลียว)
   Steel Fibers แบบนี้นั้จะผลิตโดยการบิดเกลียวเส้นใย เพื่อทำให้สามารถเสริมแรงได้ดียิ่งขึ้น และ ยังช่วยเพิ่มความเหนียวให้สูงมากขึ้นอีกด้วย
5. Stainless Steel Fibers
   Steel Fibers แบบสแตนเลสนั้นจะมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงอย่างมาก จึงเหมาะสำหรับงานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น หรือ สารเคมีอยู่เสมอ

แนะนำวิธีการผสม Steel Fibers ลงในคอนกรีต

ขั้นตอนการใช้งาน Steel Fibers นั้นไม่ซับซ้อนนัก แต่ต้องมีการควบคุมการผสมที่เหมาะสม เช่น

1. เลือกสัดส่วนที่เหมาะสม – โดยทั่วไปแล้วควรผสมในอัตรา 20–80 กก. ต่อคอนกรีต 1 ลูกบาศก์เมตร ขึ้นอยู่กับความต้องการด้านความแข็งแรงของการใช้งาน
2. การผสม (Mixing) – สามารถผสมได้ทั้งแบบใช้รถโม่คอนกรีต (Transit Mixer) หรือ เครื่องผสมคอนกรีตในไซต์งานได้ตามต้องการ
3. การเทคอนกรีต (Placing) – ควรทำเหมือนการเทคอนกรีตปกติ แต่ต้องระวังการแยกตัว (Segregation) ด้วย
4. การตกแต่งผิว (Finishing) – ให้ใช้เครื่องขัดพื้น หรือ การปรับผิวตามปกติ แต่ต้องมั่นใจว่าเส้นใย Steel Fibers ไม่โผล่ขึ้นมามากเกินไป

ข้อดีของการใช้ Steel Fibers ในการผสมคอนกรีต

ประโยชน์ของการใช้งาน Steel Fibers นั้นมีข้อดีหลายๆประการ เช่น ช่วยลดการแตกร้าว และ เพิ่มอายุการใช้งานของโครงสร้าง อีกทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนการใช้เหล็กเสริมบางส่วน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงด้านแรงดัด และ แรงเฉือน รวมถึงยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระยะยาว และ ยังติดตั้งง่าย เพียงผสมลงในคอนกรีต โดยทั้งหมดนั้นจะเป็นข้อดีของการใช้งานเส้นใยเหล็กอย่างมาก

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะพบว่า Steel Fibers หรือ เส้นใยเหล็ก เป็นวัสดุเสริมแรงที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความทนทาน และ ความยืดหยุ่นให้กับคอนกรีต โดยมีบทบาทสำคัญในงานก่อสร้าง เช่น พื้นโรงงาน ถนน สะพาน อุโมงค์ และ โครงสร้างสำเร็จรูป คุณสมบัติเด่นของ Steel Fibers รวมถึงความแข็งแรงในการมีแรงดึงสูง การต้านทานการแตกร้าว และ ความสามารถในการกระจายตัวทั่วเนื้อคอนกรีต ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน และ ลดรอยร้าว อย่างไรก็ตาม การใช้งานต้องคำนึงถึงการออกแบบที่เหมาะสม การเลือกประเภทเส้นใย การควบคุมคุณภาพการผสม และ การป้องกันการกัดกร่อน การใช้ Steel Fibers อย่างถูกต้องสามารถลดต้นทุน และ เวลาในการก่อสร้าง พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างได้อย่างมาก ดังนั้นหากต้องการใช้งาน Steel Fibers เราขอแนะนำ  บริษัท เจตริน เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ที่ทำให้ท่านมั่นใจในคุณภาพ รวมทั้งบริการก่อน และ หลังการขายที่ได้มาตรฐาน เรารับออกแบบ และ รับสร้างโรงงานด้วยการผสม Steel Fibers เพื่อสร้างความแข็งแรง โดยโครงสร้าง BlueScope ที่จะสอดคล้องลงตัวกับทุกความต้องการของคุณ ด้วยเทคนิคการก่อสร้าง และ วัสดุที่ทันสมัยที่สุดในราคาคนไทย  และ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติหลายประการนั้นเอง

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางเหล่านี้เลย

Tel. : 092-546-5532
Tel. :  +66 75-329-039 (Office)
Line ID : @jet65
Email : jettarin@jettarinengineering.co.th

(Head Office)
146/25 M.7 T. Chamai, A. Thung Song, Nakhon Si Thammarat, 80110 THAILAND

(Chiang Mai Branch)
62 M.2 T. Pa Pong A. Doi Saket, Chiang Mai 50220 THAILAND

เจตริน เอ็นจิเนียริ่ง ผู้นำที่จอดรถสำเร็จรูป ก่อสร้างโรงงาน โกดังสำเร็จรูป โดยนวัตกรรมใหม่ที่ทันสมัย ระดับสากล