ไขข้อข้องใจ หลังคาบลูสโคปทำให้บ้านร้อนจริงหรือไม่

หลังคาบลูสโคปที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสีสะท้อนความร้อน

บลูสโคป

ประเทศไทยอยู่ในเขตเมืองร้อนที่มีอุณหภูมิที่ร้อนตลอดทั้งปี การสร้างบ้านจึงต้องคำนึงถึงแสง แดดและความร้อนที่จะเข้ามาภายในบ้าน โดยเฉพาะหลังคาบ้านเป็นส่วนของโครงสร้างบ้านที่ต้องรับแสงแดดโดยตรงจากพระอาทิตย์ตลอดเวลา การเลือกชนิดของวัสดุที่จะนำมามุงเป็นหลังคาบ้านจึงต้องนำปัจจัยเรื่องของแสงแดดเข้าไปช่วยประกอบการตัดสินใจด้วย ซึ่งหนึ่งในชนิดของหลังคาบ้านที่นิยมนำมามุงหลังคาคือหลังคาบลูสโคป

เนื่องจากหลังคาบลูสโคปผลิตจากแผ่นเหล็กหรือที่เรียกว่า “เมทัลชีท” ที่เคลือบด้วยอลูซิงค์ซึ่งทำให้ต้านทานต่อการกัดกร่อน ทนทานต่อการเกิดสนิมเนื่องจากมีชั้นเคลือบกันสนิมหนากว่าเมทัลชีททั่วไป จึงทำให้ทนทนทานต่อแสงแดดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับประเทศไทยที่มีแสงแดดเกือบตลอดทั้งวัน ซึ่งแสงแดดจะมาพร้อมกับความร้อนจึงทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าหลังคาบลูสโคปมีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนมาก-น้อยแค่ไหน ? และทำให้บ้านร้อนขึ้นจริงหรือไม่ ? บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของหลังคาบลูสโคปเพื่อเป็นความรู้และข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังจะสร้างบ้านหรือกำลังต้องการที่จะเปลี่ยนหลังคาบ้านได้รู้จักกับหลังคาบลูสโคปมากยิ่งขึ้น

หลังคาบลูสโคป สีสันที่สวยงามที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อน

อย่างที่เราทราบกันหลังคาบลูสโคปเป็นหลังคาที่ผลิตจากเหล็กที่เคลือบด้วยอลูซิงค์ที่มีความทนทานต่อการใช้งานและทนทานต่อการเกิดสนิม แต่ด้วยวัสดุดังกล่าวไม่สามารถป้องกันความร้อนที่จะเข้าสู่ภายในบ้านได้ส่งผลทำให้ภายในบ้านมีอากาศที่ร้อน ผู้ผลิตหลังคาบลูสโคปจึงได้คิดค้นวิธีการที่จะเพิ่มความสามารถในการป้องกันความร้อนที่จะทำให้บ้านมีอากาศที่เย็นขึ้นด้วยการใช้โทนสีและเทคโนโลยีของสีที่จะช่วยทำให้หลังคาบลูสโคปมีคุณสมบัติที่จะสามารถสะท้อนความร้อนได้โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. โทนสีกับคุณสมบัติในการดูดกลืนความร้อน
    หลายคนอาจจะคิดว่าหลังคาที่มีหลากหลายสีที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีจุดประสงค์เพื่อให้บ้านมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่จริง ๆ แล้วสีของหลังคาบ้านนอกจากจะช่วยให้บ้านมีความสวยงามมากขึ้นแล้วยังช่วยให้บ้านไม่ร้อนได้อีกด้วยโดยโทนสีอ่อน-เข้มที่แตกต่างกัน จะมีความสามารถในการดูดกลืนความร้อนที่แตกต่างกันไปด้วย หลังคาบลูสโคปก็ใช้หลักการนี้เช่นเดียวกันโดยหลักการนี้โทนสีอ่อนหรือโทนสีสว่าง เช่น สีขาว, สีครีม, สีเทา, สีเหลือง ฯ จะสามารถดูดกลืนความร้อนได้น้อยกว่าโทนสีเข้ม เช่น สีดำ, สีน้ำเงิน, สีน้ำตาล ฯ เพราะโทนสีอ่อนจะดูดกลืนเฉพาะบางย่านของความถี่แสงเท่านั้นโดยความถี่ของแสงที่ไม่สามารถดูดกลืนได้จะทำการสะท้อนออกไป จึงทำให้หลังคาบลูสโคปที่เคลือบโทนสีอ่อนหรือโทนสีสว่างจะสามารถช่วยป้องกันความร้อนเข้ามาภายในบ้านได้ดีกว่าโทนสีเข้ม

  2. เทคโนโลยีของสีกับการสะท้อนความร้อน
    โทนสีอ่อนหรือสีสว่างของหลังคาบลูสโคปถึงแม้จะช่วยสะท้อนความร้อนออกจากหลังคาทำให้บ้านไม่ร้อนเพิ่มขึ้น แต่อากาศร้อนอย่างประเทศไทยแค่โทนสีอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้บ้านเป็นสถานที่ที่ผ่อนคลายได้ จึงได้มีการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีของสีที่ใช้เคลือบหลังคาบลูสโคปให้สามารถสะท้อนความร้อนได้มากขึ้น เช่น เทคโนโลยีสีคัลเลอร์บอนด์ จะมีเทคโนโลยี Theramatech ที่จะช่วยในการลดความร้อนสะสมของพื้นผิวหลังคา โดยเพิ่มค่าการสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์

    นอกจากนี้เทคโนโลยีสีคัลเลอร์บอนด์ยังมีเทคโนโลยี Clean ที่จะช่วยลดคราบฝุ่นทำให้สิ่งสกปรกไม่สามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ เมื่อมีฝนตกจะถูกชะล้างออกไปจึงทำให้เหล็กที่เคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ดูสะอาดและสวยงามเสมอ และเทคโนโลยีสี Cool Coating เป็นเทคโนโลยีของสีในการสะท้อนความร้อนและความทนทานต่อรังสีอัลตร้า ไวโอเลต หรือ ยูวี จะช่วยเพิ่มค่าการสะท้อนความร้อน ทำให้ความร้อนที่สะสมบนแผ่นหลังคาน้อยลง จึงจะส่งผลให้บ้านเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อนมากยิ่งขึ้น และยังมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในการต้านทานการกัดกร่อน ทนทนต่อทุกสภาพอากาศ และปราศจากสารตะกั่วและใยหินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย ซึ่งเทคโนโลยีของสีที่กล่าวมาอาจจะมีราคาที่สูงกว่าหลังคาบลูสโคปประเภททั่วไปแต่คุ้มค่าในการใช้งานในระยะยาวเป็นอย่างมาก

ดังนั้นในการเลือกใช้หลังคาบลูสโคปควรต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม เนื่องจากหลังคาบลูสโคปมีหลายประเภท ซึ่งหลังคาบลูสโคปที่มีประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อนได้ก็เป็นหนึ่งในประเภทของหลังคาบลูสโคปที่มีจำหน่ายทั่วไป ซึ่งหากเลือกใช้ได้ถูกต้องจะช่วยให้บ้านมีความเย็นมากยิ่งขึ้น โดยทริคในการเลือกใช้หลังคาบลูสโคปหากต้องการให้บ้านไม่ร้อนควรเลือกใช้หลังคาบลูสโคปที่มีสีอ่อนหรือสีสว่างเพราะจะช่วยลดการดูดกลืนความร้อนได้และเลือกใช้เทคโนโลยีของสีตามความเหมาะสมที่ต้องการใช้งานและตามงบประมาณที่ตั้งไว้

แต่หากเจ้าของบ้านต้องการหลังคาบลูสโคปที่มีสีเข้มเพื่อให้เข้ากับสไตล์และโทนสีโดยรวมของบ้าน ก็สามารถเลือกใช้หลังคาบลูสโคปสีเข้มได้แต่ควรติดฉนวนกันความร้อนกับหลังคาบลูสโคปในขั้นตอนของการติดตั้งหลังคาก็ได้ หรือจะเลือกใช้เทคโนโลยีสีที่สามารถคงประสิทธิภาพของการสะท้อนความร้อนได้ถึงแม้จะมีโทนสีที่เข้มก็ตาม ซึ่งหลังคาบลูสโคปประเภทนี้จะช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านทำให้บ้านเย็นสบายมากยิ่งขึ้นและยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย นอกจากการเลือกใช้หลังคาบลูสโคปตามสภาพอากาศแล้ว ในการเลือกใช้หลังคาบลูสโคปยังมีปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่สำคัญที่เจ้าของบ้านหรือผู้ที่ก่อสร้างต้องคำนึงถึงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด

ปัจจัยในการเลือกใช้หลังคาบลูสโคป เลือกที่ใช่และถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

  1. เลือกความหนาของหลังคาบลูสโคปให้เหมาะสม
    หลังคาบลูสโคปมีความหนาของหลังคาให้เลือกหลายขนาด เช่น 0.30, 0.35, 0.40, 0.47 มิลลิเมตร โดยหากใช้สำหรับบ้านพักอาศัย, โรงจอดรถ, ส่วนต่อเติมบ้าน ควรใช้ความหนาประมาณ 0.25-0.30 มิลลิเมตร, โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดกลางความประมาณหนา 0.35 มิลลิเมตร และโรงงานหรืออาคารขนาดใหญ่ความหนาประมาณ 0.47 มิลลิเมตร

  2. ได้รับการรับรองคุณภาพจาก มอก.
    หลังคาบลูสโคปที่เลือกใช้งานควรได้รับมาตรฐานจาก มอก. ซึ่งเป็นการการันตีว่าหลังคาบลูสโคปที่เลือกใช้มีความแข็งแรงและทนทานจึงมีความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะหลังคาบลูสโคปที่ได้รับ มอก. จะมีปริมาณมวลสารเคลือบสังกะสีผสมอลูมิเนียมอย่างน้อย 70 กรัมต่อตารางเมตร (AZ70) ซึ่งหมายถึงความทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิม โดยหากมีค่าตัวเลขที่น้อยกว่าก็หมายความว่าไม่ได้มาตรฐานไม่มีความปลอดภัยในการใช้งาน แต่หากมีค่าตัวเลขที่มากกว่าก็จะสามารถทนทานการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดีอาจทนทานได้ถึง 4 เท่าจึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหลังคาบลูสโคปที่ได้มาตรฐานจึงเป็นหลังคาที่ผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้างนิยมเลือกนำมาใช้งานกัน

Jettarin Engineering เป็นผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้างที่เลือกใช้หลังคาบลูสโคป

บริษัท เจตริน เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ให้บริการออกแบบผลิตและติดตั้งโรงงานผลิตและติดตั้งโครงสร้างอาคารสำเร็จรูป รับสร้างโรงงาน รับสร้างโกดัง ที่พักคนงานสำเร็จรูป บ้านสำเร็จรูป รั้วสำเร็จรูป โรงจอดรถสำเร็จรูป และอาคารสำเร็จรูปอื่น ๆ โดยใช้ระบบ Ranbuild ที่ใช้ “เมทัลชีท” จาก บูลสโคป ทำเป็นหลังคาหรือผนังในการก่อสร้างเพราะมีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานถึง 4 เท่า มีน้ำหนักเบา และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ที่มาพร้อมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์กว่า 10 ปีจึงการันตีถึงคุณภาพและมาตรฐานที่ได้รับ


สนใจสอบถามข้อมูล ที่พักคนงานสำเร็จรูป เพิ่มเติม ขอใบเสนอราคา หรือขอคำปรึกษาได้ที่ 
Jettarin Engineering Co.,Ltd

Tel. : 092-546-5532
Tel. :  +66 75-329-039 (Office)
Line ID : @jet65
Email : jettarin@jettarinengineering.co.th

(Head Office)
146/25 M.7 T. Chamai, A. Thung Song, Nakhon Si Thammarat, 80110 THAILAND

(Chiang Mai Branch)
62 M.2 T. Pa Pong A. Doi Saket, Chiang Mai 50220 THAILAND

 

เจตริน เอ็นจิเนียริ่ง ผู้นำที่จอดรถสำเร็จรูป ก่อสร้างโรงงาน โกดังสำเร็จรูป โดยนวัตกรรมใหม่ที่ทันสมัย ระดับสากล